วอลโว่มีแผนที่จะเปิดตัว EX30 รถยนต์ไฟฟ้า SUV ระดับพรีเมียมอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2025 แม้จะเป็นรุ่นที่สะท้อนกลยุทธ์พรีเมียม แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 40 ล้านวอน (ประมาณ 1,100,000 บาท หรือ 31,000 USD) ทำให้คาดว่าจะมีการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดเล็กของเกาหลีในตลาด
วอลโว่ได้วางแผนที่จะเปิดตัว EX30 ในเกาหลีตั้งแต่ปี 2023 แต่การเปิดตัวได้ถูกเลื่อนออกไป ในขณะเดียวกัน การส่งมอบ EX30 ในสหรัฐอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว และมีรายงานว่าได้รับการรับรองใหม่ในเกาหลีด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่าจะมีการเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2025
วอลโว่ได้เปิดตัว EX30 เป็นครั้งแรกของโลกในเดือนมิถุนายน 2023 และแนะนำรถยนต์ในเกาหลีในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเปิดให้จองล่วงหน้า EX30 ได้รับการจองล่วงหน้าในเกาหลีมากกว่า 1,000 คันภายในเวลาเพียงสองวัน รายงานระบุว่า EX30 ที่จะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้าได้รับการรับรองระยะทางการขับขี่ใหม่
EX30 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ NCM ขนาด 69 กิโลวัตต์ชั่วโมง รายงานระบุว่า EX30 มีระยะทางการขับขี่แบบผสมที่อุณหภูมิปกติ 351 กิโลเมตร (218 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ได้รับการรับรองระยะทาง 378 กิโลเมตร (235 ไมล์) สำหรับการขับขี่ในเมือง และ 318 กิโลเมตร (198 ไมล์) สำหรับการขับขี่บนทางด่วน รองรับการชาร์จไฟ DC แบบเร็ว 153 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10% ถึง 80% ในเวลาประมาณ 26 นาที
รุ่น EX30 ที่กำลังได้รับการรับรองในเกาหลีเป็นที่รู้จักในฐานะรุ่นพิสัยไกลมอเตอร์เดี่ยว ซึ่งใช้มอเตอร์ขนาด 200 กิโลวัตต์ มีกำลังสูงสุด 272 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 35.0 กิโลกรัม-เมตร สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 5.3 วินาที
วอลโว่ EX30 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่จะสร้างตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต่อจาก C40 และ XC40 Recharge ที่มีอยู่แล้ว มีการเปิดตัวทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว และได้รับเลือกให้เป็นรถยนต์ในเมืองแห่งปีในรางวัล World Car Awards 2024 พร้อมได้รับรางวัลมากกว่า 20 รางวัลและได้รับการประเมินที่ดี
นอกจากนี้ วอลโว่จะจำหน่าย EX30 ในตลาดเกาหลีด้วยคุณภาพสินค้าที่สูงและความสามารถในการแข่งขันด้านราคา โดยมีบริการ T-map infotainment ติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ขึ้นอยู่กับรุ่น จะมีการติดตั้งระบบช่วยขับ Pilot Assist, Park Pilot Assist, กล้อง 360 องศา และระบบเสียงพรีเมียม Harman Kardon Sound Bar
ราคาของ EX30 ที่ประกาศในการจองล่วงหน้าคือ 49.45 ล้านวอน (ประมาณ 1,360,000 บาท หรือ 38,000 USD) สำหรับรุ่น Core และ 55.16 ล้านวอน (ประมาณ 1,520,000 บาท หรือ 42,400 USD) สำหรับรุ่น Ultra คาดว่าราคาซื้อจริงหลังหักเงินอุดหนุนจะอยู่ระหว่าง 40 ล้านวอนต้นๆ ถึง 50 ล้านวอนต้นๆ (ประมาณ 1,100,000 - 1,380,000 บาท หรือ 31,000 - 38,500 USD) ขึ้นอยู่กับภูมิภาค