เคียจะเปิดตัว The New Kia 2023 Ray Facelift ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นเรย์ ในวันที่ 1 กันยายน รถรุ่นนี้ยังคงสืบทอดรูปลักษณ์เดิม แต่เพิ่มองค์ประกอบการออกแบบใหม่เพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่นั่งทุกที่นั่งสามารถพับราบได้ ทำให้มีพื้นที่ภายในที่หลากหลายรูปแบบ
ฟังก์ชันพื้นราบเต็มรูปแบบเป็นสิ่งที่ผู้ใช้เรย์คาดหวังมาตั้งแต่การเปิดตัวของแคสเปอร์ เรย์ที่มีพื้นที่และความสะดวกสบายมากขึ้นนี้ได้ทำให้เกิดพื้นราบเต็มรูปแบบที่เก้าอี้ด้านหน้า ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการแคมป์และการนอนในรถ ด้วยฟังก์ชันพับเก้าอี้ด้านหน้าเต็มรูปแบบและฟังก์ชันพับเลื่อนแบบ 6:4 ของเบาะหลัง ทำให้สามารถพับเก้าอี้ทุกตัวให้เป็นพื้นราบได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์สำหรับการแคมป์หรือการนอนในรถ
The New Kia Ray ได้เพิ่มคุณสมบัติและเสริมความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยเสนอราคาที่สมเหตุสมผล สำหรับรุ่นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รุ่น Standard มีราคา 13.9 ล้านวอน (ประมาณ 10,425 USD) รุ่น Prestige ราคา 15.85 ล้านวอน (ประมาณ 11,887 USD) และรุ่น Signature ราคา 17.2 ล้านวอน (ประมาณ 12,900 USD) สำหรับรถตู้ 2 ที่นั่ง รุ่น Prestige มีราคา 13.5 ล้านวอน (ประมาณ 10,125 USD) และรุ่น Prestige Special ราคา 13.9 ล้านวอน (ประมาณ 10,425 USD) นอกจากนี้ยังมีรถตู้ 1 ที่นั่ง โดยรุ่น Prestige ราคา 13.4 ล้านวอน (ประมาณ 10,050 USD) และรุ่น Prestige Special ราคา 13.75 ล้านวอน (ประมาณ 10,313 USD) เนื่องจาก Ray เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก จึงได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต
เคียได้จัดงาน Photo Media Day สำหรับ The New Ray ที่ Kia 360 เมื่อวันที่ 31 The New Ray ได้ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงและคุณสมบัติอำนวยความสะดวกที่เป็นที่นิยมของลูกค้า เช่น ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถและเบาะนั่งคนขับแบบระบายอากาศ นอกจากนี้ยังเพิ่มฟังก์ชันการพับเบาะทุกที่นั่งเพื่อเพิ่มการใช้งานพื้นที่
การออกแบบของ Ray 2023 ยังคงสืบทอดรูปลักษณ์ของ Ray รุ่นก่อนหน้า แต่สร้างบรรยากาศการออกแบบใหม่ ด้านหน้าได้ใช้การออกแบบ Tiger Face ที่ปรับให้เหมาะกับ Ray โดยใช้ไฟ Star Map Signature และแถบตกแต่งตรงกลาง เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับ Ray ล้อขนาด 15 นิ้วแบบขัดหน้าช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับด้านข้าง ส่วนด้านหลัง ไฟท้ายแบบ Star Map Signature ช่วยขยายความกว้างของรถในทางสายตา
ภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มการออกแบบแผงหน้าปัดและเพิ่มสีภายในเป็นสีเทาอ่อน มีการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงและคุณสมบัติอำนวยความสะดวกใหม่ๆ หลายอย่าง ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านข้าง ระบบไฟสูงอัตโนมัติ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะถอยหลังและระบบเตือนการลงจากรถอย่างปลอดภัย
Ray Facelift มาพร้อมกับคุณสมบัติอำนวยความสะดวกที่เป็นที่นิยมของลูกค้า เช่น เบาะนั่งคนขับแบบระบายอากาศ โหมดฟอกอากาศ กระจกมองข้างพับอัตโนมัติเมื่อล็อกประตู กุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบสตาร์ทรถระยะไกล ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางแต่ละล้อ และพอร์ตชาร์จ USB Type-C ที่เบาะหลัง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการเชื่อมต่อขั้นสูง เช่น Kia Connect ที่ควบคุมรถยนต์ระยะไกลผ่านแอพสมาร์ทโฟน รวมถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์และระบบปรับอากาศ Kia Pay และฟังก์ชัน Home IoT