สวัสดีครับ.
ผมคือยูนิจิที่ทำงานเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านรถยนต์.
รถยนต์ SUV รุ่นเรือธงของฮุนไดอย่างพาเลเซด (Palace) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคในประเทศด้วยความแข็งแกร่งและการออกแบบที่โดดเด่น ได้เปิดตัวการออกแบบใหม่หลังจากการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ (Full Change) เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา และในวันที่ 20 นี้ได้เปิดเผยข้อมูลสเปคหลักและราคาพร้อมเริ่มการจองล่วงหน้า ทำให้กลายเป็นข่าวฮือฮาในวงการ.
พาเลเซดรุ่นใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในต้นปีหน้าคือพาเลเซด Full Change LX3 'ดิ ออล นิว พาเลเซด' ซึ่งเป็นรถ SUV ขนาดใหญ่รุ่นเรือธงของฮุนได และเป็นรุ่นที่มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 โดยมีการออกแบบที่สะดุดตาและพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง ทำให้พาเลเซดได้กลายเป็นผู้นำในตลาด SUV ขนาดใหญ่ในประเทศและได้รับความสนใจอย่างมาก.
นอกจากนี้ ความหรูหราของพาเลเซด Full Change LX3 ดิ ออล นิว พาเลเซดยังสามารถสัมผัสได้จากการออกแบบใหม่ที่พัฒนาอย่างก้าวหน้า โดยเริ่มจากการตีความใหม่ของไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน (DRL) ที่มีลักษณะโดดเด่นและการออกแบบที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ พื้นที่ภายในที่กว้างขึ้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนอยู่ในบ้าน ตกแต่งอย่างอบอุ่นและใส่ใจในรายละเอียด.
นอกจากนี้ ด้วยขนาดที่เพิ่มขึ้นของตัวรถ ทำให้มีการใช้งานพื้นที่ได้อย่างสูงสุด พร้อมกับการปรับปรุงความสะดวกสบายและความเงียบสงบด้วยการใช้ระบบไฮบริดรุ่นใหม่ และการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ทันสมัย ทำให้พาเลเซดใหม่มีความหรูหราเหมาะสมกับ SUV ระดับพรีเมียม โดยฮุนไดได้สะท้อนความมุ่งมั่นในการตอบสนองความคาดหวังของตลาดด้วยพาเลเซดรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น.
ด้วยการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ พาเลเซดใหม่ได้มีการปรับขนาดให้ยาวขึ้นถึง 5,060 มม. ซึ่งเพิ่มขึ้น 65 มม. และมีระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้น 70 มม. เป็น 2,970 มม. ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวางมากขึ้น.
นอกจากนี้ ฮุนไดยังได้ออกแบบส่วนประกอบภายในของพาเลเซดใหม่ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัว โดยมีการจัดวางที่นั่ง คอนโซล และแผงหน้าปัดด้วยวัสดุที่นุ่มนวลและการตกแต่งที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างบรรยากาศที่สะดวกสบายและมีระดับ และคอนโซลกลางแบบเกาะกลางที่ติดตั้งชาร์จไร้สายและพอร์ต USB ชนิด C ที่รองรับการชาร์จได้สูงสุด 100W พร้อมกับที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 ช่อง และพื้นที่เก็บของด้านล่าง ทำให้การใช้งานมีความสะดวกมากขึ้น.
นอกจากนี้ พาเลเซด Full Change LX3 'ดิ ออล นิว พาเลเซด' ยังมีรุ่น 9 ที่นั่งใหม่ที่สามารถใช้งานเป็นที่นั่งกลางแถวหน้าได้ โดยมีคอนโซลมัลติฟังก์ชันที่พับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งาน และมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยกลางที่ขยายเพื่อตอบสนองความปลอดภัยของผู้โดยสารที่นั่งกลาง และที่นั่งแถวที่สองแบบอิสระที่ปรับไฟฟ้าได้ พร้อมฟังก์ชันความสะดวกสบายที่ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสบายสูงสุด และสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นที่นั่งที่มีฟังก์ชันนวดได้.
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันการทำงานที่ให้ที่นั่งเอนหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างสำหรับผู้โดยสารในการขึ้นลงที่แถวที่สาม โดยมีพื้นที่ว่างเพิ่มเติมถึง 92 มม. ทำให้ผู้โดยสารสามารถเข้าออกได้อย่างง่ายดาย แม้จะติดตั้งที่นั่งเด็กอยู่ก็ยังสามารถทำงานได้ ทำให้พาเลเซดใหม่มีความสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับครอบครัว.
ที่นั่งแถวที่สามของพาเลเซดใหม่มีการออกแบบให้มีหน้าต่างด้านหลังที่กว้างขึ้นเพื่อเพิ่มความรู้สึกเปิดโล่ง และที่นั่งแบบแบ่ง 6:4 ที่ปรับไฟฟ้าได้สามารถเลื่อนได้ทั้งไปข้างหน้าและข้างหลังได้ถึง 110 มม. ทำให้สามารถปรับพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและสัมภาระได้ตามต้องการ โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางถึง 615 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋ากอล์ฟ 4 ใบและกระเป๋าบอสตันได้อย่างสบาย.
นอกจากนี้ พาเลเซดยังมีระบบควบคุมที่นั่งแถวที่สองและสามที่สามารถปรับได้จากหน้าจอของผู้ขับขี่ รวมถึงการควบคุมการปรับอากาศจากหลังคา เพื่อให้ทุกผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฮุนไดได้พิจารณาความต้องการของลูกค้าในเรื่องรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 2.5 เทอร์โบ ไฮบริด ซึ่งเป็นครั้งแรกในกลุ่มฮุนได เพื่อให้มีทั้งประสิทธิภาพและความคุ้มค่า.
พาเลเซดใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกับรุ่น 2.5 เทอร์โบ ไฮบริด จะมีพละกำลังรวมจากมอเตอร์ถึง 334 แรงม้า และคาดว่าจะสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม. ต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี E-Ride, E-Handling, E-EHA, e-DTVC ที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงความสะดวกสบายและสมรรถนะในการขับขี่.
นอกจากนี้ พาเลเซดใหม่ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 1.65kWh 300W และฟังก์ชัน V2L สเตย์โมด ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสกับเทคโนโลยีที่สะดวกสบายเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นครั้งแรกในรุ่นไฮบริด โดยฟังก์ชันสเตย์โมดจะช่วยควบคุมการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เมื่อถึงจุดหมายเพื่อให้สามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบปรับอากาศและระบบอินโฟเทนเมนต์ได้ในขณะที่จอดรถ.
ฮุนไดได้แนะนำรุ่นเบนซินที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 เทอร์โบแทนที่เครื่องยนต์เบนซิน 3.8 ลิตรที่เคยใช้ในพาเลเซดรุ่นเก่า โดยรุ่น 2.5 เทอร์โบ เบนซินจะมีพละกำลังสูงสุด 281 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 43.0kgf.m และอัตราการบริโภคน้ำมันรวม 9.7 กม./ลิตร ซึ่งการใช้ระบบเทอร์โบจะช่วยเพิ่มแรงบิดสูงสุด ทำให้การเร่งออกตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
นอกจากนี้ พาเลเซดใหม่ยังได้รับการติดตั้งระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า Preview Electronic Control Suspension ซึ่งเป็นครั้งแรกในรถ SUV ของฮุนได โดยระบบนี้ได้รับการพัฒนาจากรถ SUV ของเจนีซิส ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถยนต์ โดยระบบนี้จะใช้เซ็นเซอร์และข้อมูลจากแผนที่นำทางในการประเมินสภาพถนนและสถานการณ์การขับขี่ เพื่อควบคุมการลดแรงกระแทกให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวของรถ.
ระบบกันสะเทือนอิเล็กทรอนิกส์นี้จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงด้านข้าง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางในทุกสภาพถนน.
นอกจากนี้ ฮุนไดยังได้ติดตั้งกล้อง Built-in Cam 2 Plus ที่สามารถบันทึกภาพขณะจอดรถได้นานถึง 4 วัน และมีฟังก์ชันทำความสะอาดกล้องที่ติดตั้งในกระจกกลาง เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายจากฝนหรือฝุ่นที่เกิดจากสภาพแวดล้อม.
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดยพาเลเซดใหม่ได้ติดตั้งฟังก์ชันช่วยป้องกันการชนด้านหน้า (Cross Traffic/Overtaking Vehicle/Side Approach Vehicle/Avoidance Steering Assist), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะที่อิงจากการนำทาง, ระบบช่วยขับขี่บนทางหลวง 2, การเตือนการชนด้านหลัง, ระบบช่วยป้องกันการชนด้านหลัง, ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ, ระบบช่วยป้องกันการชนขณะจอด, การเตือนระยะห่างด้านข้าง, การแจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลังที่มีความก้าวหน้า, และการตรวจจับการจับพวงมาลัย เป็นต้น.
ในขณะเดียวกัน ฮุนไดได้ประกาศว่าจะเริ่มส่งมอบพาเลเซดรุ่น 2.5 เทอร์โบให้กับลูกค้าในช่วงกลางเดือนหน้า และรุ่นไฮบริดจะเริ่มส่งมอบในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า โดยราคาของพาเลเซดรุ่น 2.5 เทอร์โบจะแบ่งตามรุ่น ได้แก่ รุ่น 9 ที่นั่ง Exclusive ราคา 4,383,000 บาท, Prestige ราคา 4,936,000 บาท, Calligraphy ราคา 5,586,000 บาท และรุ่น 7 ที่นั่ง Exclusive ราคา 4,516,000 บาท, Prestige ราคา 5,099,000 บาท, Calligraphy ราคา 5,794,000 บาท.
รุ่น 2.5 เทอร์โบ ไฮบริด จะมีราคาตั้งแต่ 4,982,000 บาทสำหรับรุ่น 9 ที่นั่ง Exclusive, 5,536,000 บาทสำหรับรุ่น Prestige, 6,186,000 บาทสำหรับรุ่น Calligraphy และสำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง Exclusive ราคา 5,146,000 บาท, Prestige ราคา 5,729,000 บาท, Calligraphy ราคา 6,424,000 บาท.
ผู้แทนของฮุนไดกล่าวว่า "ดิ ออล นิว พาเลเซด เป็นโมเดลเรือธงระดับพรีเมียมของฮุนได ซึ่งมีการออกแบบที่หรูหราขึ้นและการตกแต่งภายในที่สะดวกสบาย ทำให้เรามั่นใจว่าจะรักษาความเป็นผู้นำในตลาด SUV ขนาดใหญ่ในประเทศได้อย่างแน่นอน" พร้อมแสดงความภาคภูมิใจและความคาดหวังต่อพาเลเซดรุ่นใหม่.
#พาเลเซด #พาเลเซดฟูลเชนจ์ #พาเลเซดLX3 #พาเลเซดใหม่ #ดิออลนิวพาเลเซด #พาเลเซดไฮบริด #พาเลเซดจองล่วงหน้า #พาเลเซดไฮบริดวันเปิดตัว #พาเลเซดฟูลเชนจ์จองล่วงหน้า #ดิออลนิวพาเลเซดราคา #พาเลเซดใหม่ราคา #รถครอบครัว #SUVขนาดใหญ่ #SUVเรือธง #ฮุนไดพาเลเซด #ข่าวรถใหม่ #รถยนต์ #ยูนิจิ #ประเด็นรถยนต์ #เวลคาร์ #ข่าวรถยนต์